เรื่องราวของ รปภได้เปิดใจเล่าให้ฟังว่าตนอยู่กับแม่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน สองคน เมื่อ 7 ปีก่อน แม่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ตนเป็นลูกคนเดียว เงินรับจ้างแต่ละเดือนของแม่ ก็พอเลี้ยงดูกันเองได้ อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ แต่ทำได้ที่ดีที่สุดคือตั้งใจเรียนเพื่อหาทุนการศึกษามาแบ่งเบาภาระ จนกระทั่งได้รับทุนของมูลนิธิโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ตนเองเรียนจบมัธยมตอนปลาย ผลการเรียน เกรดเฉลี่ย 3.92 จึงได้ใช้ผลการเรียนนี้ยื่นสมัครเข้าการคัดเลือกระดับมหาวิทยาลัย ตนเองได้ยื่นไป 2 แห่งคือคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และคณะสัตวแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในช่วงที่รอ ผลการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ตนก็หวังอยากจะหารายได้มาจุนเจือครอบครัวและ หาเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายตอนเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย จึงได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ที่ทำงาน ให้มาสมัครเป็น รปภ เพราะเห็นว่ารายได้ดีและมีสวัสดิการ พร้อม ปัจจุบัน ตนเองทำงานที่นี่มา 2 เดือนกว่าแล้ว ตอนช่วงประกาศผลสอบ น้องยังรู้สึกดีใจที่สุดในชีวิตจากความเพียรพยายามของตนเองที่ตั้งใจเรียนมาตลอดจนได้รับการคัดเลือกให้เข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่ง ที่ตนได้ยื่นไว้ และได้ตัดสินใจเลือกเรียนที่คณะสัตวแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตนอยากเรียน
โดยเริ่มแรกอยากเป็นแพทย์แต่เมื่อมองดูคะแนนตัวเองแล้วอาจจะเอื้อมไม่ถึงจึงเลือกที่จะลงในสาขาวิชาที่ใกล้เคียงกันแทนนั่นก็คือสัตวแพทย์ และที่สำคัญยังได้ทุนประเภทกของมูลนิธิจุฬาภรณ์ทั้งค่าเล่าเรียนค่าอาหารและค่าที่พักตลอดจนจบการศึกษาด้วย
เงินที่ได้จะเก็บไว้ใช้ในการเดินทางในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ตนกับแม่จะเดินทางไปมอบตัวและทำสัญญารับทุนที่จุฬาภรณ์มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯมหานคร และเตรียมจะลาออกจากงาน รปภในสัปดาห์นี้เพื่อนร่วมอาชีพต่างยืนยันว่าน้องเป็นคนดีขยันทำงานปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดีเป็นที่รักของทุกคนและยังเป็นความภาคภูมิใจกับเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกัน
เพื่อนร่วมงานยินดีกับน้อง พร้อมทั้งอวยพรให้ประสบความสำเร็จในชีวิตต่อไป นอกจากนี้ น้องยังมีเป้าหมายจะหางานทำนอกเวลาเรียนเพื่อหารายได้เสริมไปด้วย พร้อมทั้งฝากส่งกำลังใจและข้อคิดสำหรับทุกคนทุกอาชีพว่าหากมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็จงทำตามเป้าหมายที่ตนเองหวังไว้ขอเพียง ขยัน ไม่ย่อท้อ และซื่อสัตย์กับตนเองก็จะนำไปสู่ความสำเร็จ กันได้
ขอบคุณข้อมูลจาก เชียงใหม่นิวส์ เรียบเรียง 2benews