เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมายาวนานและคนต้องใช้บริการแท็กซี่บ่อยๆ คงจะทราบดีว่า แท็กซี่ที่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร มีจำนวนมากจริงๆ โดยเฉพาะย่านที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก เช่น สยาม ประตูน้ำ ข้าวสาร คนขับแท็กซี่แทบจะไม่รับผู้โดยสารชาวไทยเลย เพราะถ้ารับผู้โดยสารต่างชาติจะมีโอกาสได้ค่าบริการที่สูงกว่านั่นเอง บางคนโบกเรียกว่า 20 คัน ก็ไม่ได้ขึ้น ทั้งที่เปิดไฟหน้ารถว่า “ว่าง”
ล่าสุดจากหลายๆ สำนักข่าว ก็ได้พากันนำเสนอข้อการแก้กฎหมายใหม่ของกรมการขนส่งทางบก เพื่อดัดหลังแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร ด้วยการเพิ่มบทลงโทษ ปรับคนขับแท็กซี่ 5,000 บาท และหากเป็นรถแท็กซี่แบบเช่า เจ้าของรถอย่างสหกรณ์แท็กซี่ทั้งหลายก็จะโดนปรับด้วยอีก 50,000 บาท พร้อมทั้งสั่งพักใช้ใบอนุญาตคนขับที่แสดงกริยาไม่เหมาะสม ยิ่งไปหว่านั้น อาจถึงขั้นเพิกถอนใบขับขี่ หากกระทำความผิดต่อผู้โดยสารหลายครั้ง
เนื่องจากที่ผ่านมา ข้อร้องเรียนของผู้โดยสารต่อการใช้บริการรถแท็กซี่ พบข้อมูลว่า อันดับแรกที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือ เรื่องแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร รองลงมาคือแสดงกิริยาไม่สุภาพ ขับรถประมาท ไม่กดมิเตอร์ อีกทั้งไม่ไปส่งผู้โดยสารตามปลายทางที่กำหนด ซึ่งข้อร้องเรียนของผู้โดยสารนั้น กรมการขนส่งทางบกจะนำไปพิจารณาในการปรับขึ้นค่าโดยสารกับแท็กซี่ในอนาคตด้วย
สำหรับการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจะเป็นไปตามการให้รวมร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก 2 ฉบับ นั่นคือ พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 เข้าด้วยกัน เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นขึ้น และเป็นมาตรฐานเดียวกันกับรถโดยสารสาธารณะประเภทอื่น กฎหมายใหม่นี้ หากแท็กซี่รายใดปฏิเสธผู้โดยสาร ผู้ขับรถมีโทษปรับสูงสุด 5,000 บาท และ ผู้ประกอบการหรือเจ้าของรถปรับไม่เกิน 50,000 บาท