ผู้ที่ต้องใช้บริการโดยสารรถตู้สาธารณะอาจต้องแบกรับค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง เพราะเมื่อเร็วๆนี้ มีรถตู้โดยสารหลายสายขอปรับราคาค่าโดยสารขึ้นอีก เหตุผลก็เพราะว่า ช่วงสูญญากาศการเมือง อีกทั้งราคาน้ำมันก็แพงขึ้น ขณะที่กรมการขนส่งทางบก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ได้รับคำร้องแล้วก็ลุยตรวจทันที พร้อมทั้งระบุ เพิ่งอนาญาตให้ปรับราคาไปเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ดังนี้นจะไม่มีการปรับราคาขึ้นอีก
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ มีประชาชนผู้ใช้บริการจำนวนมากที่ใช้บริการรถตู้โดยสาร ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน ประเด็นเรื่องการปรับราคาค่าโดยสารอีกครั้ง ซึ่งประชาชนที่ใช้บริการประจำระบุว่า เป็นการซ้ำเติมประชาชนในยุคที่ต้องแบกรับค่าครองชีพหนัก เช่น รถตู้โดยสารเส้นทางไทรน้อย-เซ็นทรัลปิ่นเกล้า-พาต้าปิ่นเกล้า เส้นทางฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ได้ประกาศปรับค่าโดยสารอีก 5 บาท มีผลเมื่อ 1 มิ.ย.-ก.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างเหตุจำเป็นว่าได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันสูงขึ้น ขณะที่สภาพบริการไม่ได้มีการพัฒนา และขณะนี้ ยังวิ่งบริการรับผู้โดยสารเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด คือ 13 ที่นั่ง แต่มีการบรรทุก 14 ที่นั่งโดยตลอด
นอกจากเรื่องการฉวยโอกาสปรับราคา ประชาชนยังร้องเรียนประเด็นการคำนวณอัตราค่าโดยสารตามตาราง ที่กรมการขนส่งทางบกควบคุม ซึ่งกรมฯ ได้ออกประกาศตารางค่าโดยสาร ที่จัดเก็บตามมติคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง ปี 2562 ว่า รถวิ่งระยะทางไม่เกิน 20 กม.แรก เก็บค่าโดยสาร กม.ไม่เกิน 1.30 บาท /20 กม.ขึ้นไป กม.ละไม่เกิน 1 บาท และบวกค่าโดยสารขั้นต่ำ 20 บาท แต่ในทางปฏิบัติผู้ประกอบการก็เก็บค่าโดยสารแพง เกินอัตราที่กำหนดในหลายเส้นทาง ซึ่งประชาชนอยากให้กรมการขนส่งทางบก ลุยสำรวจ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ได้สั่งการให้ผู้ตรวจการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้การปรับราคาค่าโดยสาร ที่ผ่านมาในช่วงที่คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลาง ได้อนุมัติให้รถโดยสาร ปรับราคาไปแล้วเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งรถเมล์ของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ หรือ ขสมก. และรถร่วมบริการ, รถโดยสารของ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. รวมถึงรถร่วมบริการได้รับอนุมัติปรับราคาไปแล้ว และรถตู้โดยสารก็ได้รับอานิสงค์ปรับราคาไปด้วย โดยช่วงนั้นมีการปรับราคา ไปแล้ว 5 บาท/คน ดังนั้น หากผู้ประกอบการ ปรับราคาไปแล้วเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็จะไม่สามารถปรับราคาได้อีก และหากประชาชน พบเห็นการฉวยโอกาสปรับราคา สามารถร้องเรียนที่สายด่วน 1584 ได้ทันที
ที่มา : สำนักข่าวไทย