กทม และ ปริมณฑล ช่วงนี้น้ำประปามีความเค็ม การประปานครหลวง แนะนำ การบริโภคน้ำประปา ช่วงภัยแล้งปี 2563 ผู้ว่าการประปานครหลวง เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงภัยแล้งน้ำในเขื่อนมีน้อย ไม่เพียงพอที่จะปล่อยมาผลักดันน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงทำให้ น้ำดิบมีความเค็ม การประปาได้หลีกเลี่ยงการสูบน้ำดิบเพื่อการผลิตน้ำประปาในช่วงเวลาที่น้ำทะเลหนุนสูง อีกทั้งประสานความร่วมมือในการบริหารจัดการน้ำกับสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และกรมชลประทานมาโดยตลอด แต่ปีนี้น้ำทะเลหนุนสูงมีความรุนแรงสูงสุดในรอบ 50 ปี จึงยังคงมีความเค็มผ่านเข้ามาในระบบ ประกอบกับ ระบบผลิตน้ำประปาของ กปน. ไม่สามารถกำจัดความเค็มออกจากน้ำดิบได้ จึงส่งผลให้รสชาติของน้ำประปามีความผิดปกติ รสชาติ กร่อยเล็กน้อย ในบางช่วงเวลา ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งความเค็มในรูปคลอไรด์ เกิน 250 มิลลิกรัมต่อลิตร หรือโซเดียม เกิน 200 มิลลิกรัมต่อลิตร มีปริมาณสูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่มีผลต่อความน่าดื่มและการยอมรับ แต่ถ้าบ้านไหนมีเครื่องกรองน้ำระบบ RO ก็ดื่มได้ครับ
กปน. ขอแนะนำแนวทางการใช้น้ำประปาในช่วงภัยแล้งสำหรับประชาชน ตามคำแนะนำ ของกรมอนามัย ดังนี้
- ผู้ที่มีสุขภาพปกติ สามารถบริโภคน้ำประปาได้ โดยยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ด้วยรสชาติที่เปลี่ยนไปอาจส่งผลต่อความน่าดื่ม ทั้งนี้ ความเค็มในรูปของโซเดียมในน้ำประปา ถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับปริมาณโซเดียมในอาหารทั่วไปที่บริโภคในชีวิตประจำวัน
- การใช้น้ำประปาเพื่อปรุงอาหารในช่วงเวลานี้ ควรลดการเติมเครื่องปรุงรสให้น้อยลง
- กลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงการบริโภค ได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคไต โรคหัวใจ โรคความดันสูง โรคเบาหวาน โรคทางสมอง ผู้สูงอายุ และ เด็กเล็ก
โดย กปน. จะจัดให้บริการน้ำประปาดื่มได้เพื่อบรรเทา ในกรณีดังกล่าว ซึ่งเป็นน้ำประปาจากโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ที่รับน้ำจากเขื่อนแม่กลองและไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำเค็ม สามารถนำภาชนะมารับน้ำประปาดื่มได้ที่สำนักงานประปาสาขาใกล้บ้านท่านทั้ง 18 สาขา เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2563 เป็นต้นไปโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อนึ่ง สถานการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นต่อเนื่องจนกว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝน หรือประมาณ เดือนพฤษภาคม 2563 ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลคุณภาพน้ำประปาออนไลน์ด้วยตนเอง
ขอขอบคุณ การประปานครหลวง กปน. (Metropolitan Waterworks Authority – MWA)