หลังจาก จีเอ็ม ประกาศ ยุติการขายรถยนต์ เชฟโรเลต ในประเทศไทยหลังสิ้นสุดปี 2563 เนื่องจากปัจจัยทางกลยุทธไม่เอื้ออำนวยต่อแผนธุรกิจ แต่ยืนยันว่ายังเปิดให้บริการหลังการขายต่อไปนั้น พร้อม ข า ย โรงงานประกอบรถยนต์และโรงงานประกอบเครื่องยนต์ที่จังหวัดระยองให้กับ เกรทวอลล์ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน ทำให้มีการจับตากันว่า รถที่ยังมีอยู่ในสต็อกประมาณ 4,000 คัน เชฟโรเลตจะมีแนวทางจัดการอย่างไร
ทั้งนี้สังเกตได้ว่ารถที่ ล ด สูงที่สุดคือ Captiva ซึ่งเป็นรถรุ่นล่าสุดที่เชฟโรเลตทำตลาดในไทย โดยเป็นการนำเข้ามาจากโรงงานผลิตร่วมทุนระหว่างจีเอ็มกับพันธมิตรในประเทศจีน เปิดตัวช่วงปลายปี 2562 แต่สร้างยอด ข า ย ได้ไม่ดีนัก โดยมีการส่งมอบเฉลี่ยประมาณเดือนละ 250 คัน ซึ่งถือว่าน้อยมาก สำหรับรถที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ๆ คาดว่า แคปติวา จะมีจำนวนค้างสต็อกไม่มากนัก เพราะเพิ่งตัวไม่นาน และเป็นการนำเข้ามาจากจีน
แอนดี้ ดันสแตน (ประธานกรรมการตลาดเชิงกลยุทธ์พันธมิตร พันธมิตรและผู้แทนจำหน่าย) กล่าวว่า “การยุติการผลิตและการจำหน่ายในประเทศไทยเป็นไปตามกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจทั่วโลกของ GM และขอบข่ายการจัดสรรเงิน ทุ น การตัดสินใจไม่ได้สะท้อนถึงศักยภาพและความสามารถของทีมงานในประเทศไทยรวมถึงผู้จัดจำหน่ายของเราแต่อย่างใด”
ขอขอบคุณ เนชั่น,กรุงเทพธุรกิจ