จบแค่ป.6 ขายผัก สร้างรายได้ 16 ล้านบาทต่อเดือน

บางครั้งแล้ววุฒิการศึกษาสูงบางทีก็ไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิต ว่าใครจะจนหรือจะรวยมันอยู่ที่ความขยัน
การลงมือทำและหมั่นพัฒนาตนเองอยู่เรื่อยๆ ทำทำทำ จนกว่าจะสำเร็จ
และบุคคลที่จะพูดถึงนี้ เขาจบเพียง ป.6 แต่สามารถสร้างและพัฒนาสิ่งที่ทำ
จนเกิดรายได้ ถึง 10-16 ล้านบาทต่อเดือน

คุณสมเกียรติ อายุ 41 ปี เจ้าของฟาร์มไม่ได้ตั้งใจ เริ่มต้นธุรกิจจากความล้มเหลว แต่ไม่หยุดลงมือทำ
จนตอนนี้ สร้างรายได้ขายผักได้มากว่า 16 ล้านบาทต่อเดือน(ซึ่งต้องบอกก่อนว่า รายได้เกิดจาก2ส่วน
คือหนึ่งจากฐานะผู้รวบรวมผักขาย ส่งตามห้าง และสองปลูกขายเองหน้าฟาร์ม). คุณสมเกียรติ เล่าว่า
ตนเป็นลูกหลานเกษตรกร คลุกคลีมา 18 ปี ไม่ได้มีความรู้สึกชอบ และจากความไม่เข้าใจถึงแก่นของเกษตรกรจริงๆ
รู้สึกเพียงว่า การเกษตรเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เพียงปีละครั้ง ระหว่างปีก็ไม่ทำอะไร รายได้ก็มาจากการกู้นายทุน
ยิ่งทำยิ่งเป็นหนี้ มองไม่เห็นทางออก แบบนี้ไม่เอาแน่นอน และไม่คิดทำเกษตร

 

 

 

จนวันหนึ่งได้แฟนเป็นแม่ค้า หลังแต่งงาน ก็เปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ย้ายมาอยู่ที่บ้านแฟน มาช่วยแฟนขายของชำในตลาดสด
พอเริ่มมีลูก ภาระค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้มองหารายได้เพิ่ม
เข้ามาจับธุรกิจตัวแรกคือ ขายมะนาว เริ่มจากรับซื้อ จากเกษตรกรเพื่อมาขายที่ตลาดสด และจากนั้นก็ขายเครื่องส้มตำทุกอย่าง.
รายได้พออยู่ได้ใช้ชีวิตประจำวัน แรกๆเรียกได้ว่าลำบาก ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ตอนย้ายไปอยู่สระบุรีใหม่ๆ คุณสมเกียรติ
บอกว่าเคยนอนวัด เข้าห้องน้ำ อาบน้ำตามปั๊ม เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้เงินเลยละคะ (นี่ใช่ไหมค่ะที่เขาว่าคนจะรวยต้องรู้จักอดและออม)

เมื่อชีวิตก้าวเข้าสู่การค้าขายเป็นพ่อค้าแม่ค้าเต็มตัว ขายมะนาว ขายเครื่องส้มตำทุกอย่าง ขายผัก บลาๆ
และจากประสบการการค้าขายผัก ทำให้ได้รับรู้ปัญหาอย่างหนึ่งของการขายผักคือ ตลาดผักไม่สม่ำเสมอ.
หมายถึง ผักบางชนิดก็หายากในบางฤดู บางชนิดก็เยอะเกิน และบางชนิดขาดตลาดไปเลยก็มีด้วย
ความเป็นแม่ค้าก็สงสัยว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น เลยคิดหาวิธีการว่าจะทำอย่างไร
ถึงจะมีผักขายได้ตลอด มากน้อยก็ควรน่าจะต้องมีขาย จึงเริ่มมองหาคู่ค้า ไปติดต่อกับเจ้าของสวนผักหลายๆเจ้า แล้วรวบรวมส่งผักขายให้กัน

พร้อมพัฒนาเพิ่มระดับมาตราฐานเข้าไป ให้มีระบบ GMP เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยมีหน่วยงานของเกษตรจังหวัดสระบุรี
เข้ามาให้การช่วยเหลือแนะนำ
ทำแบบนี้มาเรื่อยๆรวบรวมผัก สะสมคู่ค้า พัฒนามาจนได้รับมาตรฐาน และกลายเป็นผู้รวบรวมส่งผักขายรายใหญ่ได้
ส่งขายไปยังห้างแม็คโคร 4 สาขา ในพื้นที่เขตจังหวัดสระบุรี
จากยอดส่งผักเพียง 200-300 กิโลกรัม สู่ปัจจุบันสามารถส่งผักจำหน่ายได้ถึง 5 – 6 ตันต่อวัน
(ที่ใช่ไหมที่มาของ16ล้านต่อเดือน สุดยอดมากๆจ้า)

ปัจจุบัน “สมเกียรติ ผักอร่อย” ในฐานะผู้รวบรวมผัก สามารถพัฒนาไปถึงขั้นของระบบคิวอาร์โค้ต
แค่ใช้มือถือสแกนหน้าถุง รายละเอียดก็จะขึ้นข้อมูลให้ผู้บริโภคทราบได้ คุณสมเกียตริและภรรยาจาก “ผู้รวบรวมผัก”
ทำมาตราฐานส่งขายตามห้าง หันมาสร้างฟาร์มผักเป็นของตัวเองบ้าง เนื่องด้วยรู้และพอมีประสบการณ์ด้านการตลาด
จึงเข้าใจและรู้ความต้องการของตลาดว่าต้องการผักแบบไหน จึงหันมาปลูกผักขาย เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่
จากแม่ค้าพ่อค้าผักในตลาดสด ยึดอาชีพผู้ค้าส่ง จับพัดจับถู เรียนรู้ ลงมือทำ จนได้เป็นเจ้าของฟาร์มไม่ได้ตั้งใจ
ขายผักหน้าฟาร์มเก๋ๆ อีกส่วนของการรวบรวมผัก

ก็ยังคงดำเนินไปวางจำหน่ายในห้าง ทุกอย่างเกิดจากความขยัน ลงมือทำ ช่างสังเกต เรียนรู้ศึกษาสิ่งที่ทำ ทำให้สิ่งดีๆเข้ามา
คุณสุนันทร์(ภรรยา) บอกว่า ตั้งแต่ต้นปี 2559 มานี้ “สมเกียรติ ผักอร่อย ได้ปรับตัวจากผู้รวบรวมผัก มาปลูกผักเองบ้าง
โดยใช้พื้นที่กว่า 16 ไร่ เน้นการปลูกให้ได้มาตรฐาน

 

เป็นการปลูกผักแบบยกระดับคุณภาพของผัก ปลูกแบบออร์แกนิกโดยทำตลาดไปที่ตลาดสุขภาพ กลุ่มลูกค้าที่อยากทานผักปลอดสาร”
แบ่งพื้นที่เพื่อปลูกผักบุ้ง กวางตุ้ง คะน้า และปลูกมะพร้าวน้ำหอม โดยจุดประสงค์ที่ปลูกมะพร้าวคือ
เพื่อต้องการให้ธรรมชาติปรับช่วยกันเอง เพราะใบของมะพร้าวช่วยกรองแสงแดดได้บางส่วน ในขณะที่สร้างร่มเงา
ลูกมะพร้าวน้ำหอมก็สามารถขายได้อีกด้วย

ส่วนพื้นที่ในการปลูกพืชจำพวกผักสลัดนั้น คุณสมเกียรติ บอกว่า มีพื้นที่น้อยก็สามารถทำได้ มีพื้นที่เพียง 5 ตารางวา
ก็ทำเงินหมื่นได้ง่ายๆต่อเดือน เพราะพืชเหล่านี้ใช้เวลาปลูกไม่นาน ประมาณ 25-30 วัน ก็สามารถตัดขายได้แล้ว ด้านยอดขาย
คุณสุนันทร์ บอกว่า “ยอดขายในฐานะของผู้รวบรวมผัก ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 16 ล้านบาทต่อเดือน แต่ถ้าในฐานะของเจ้าของฟาร์มผู้ปลูกผักเองนั้น

แยกส่วนกัน ส่วนใหญ่ผักที่ปลูกที่นี่ มักขายที่หน้าสวนไปเลย ราคาค่อนข้างสูงกว่าผักที่อื่นมาก เพราะเป็นผักออร์แกนิก
รายรับอาจไม่มากเท่าฐานะผู้รวบรวมผัก แต่ก็ถือว่าดีมาก

 

 

 

 

ส่วนคุณสมเกียรติ ฝากทิ้งท้ายไว้ว่า “ตลาดผักในประเทศไทยยังไปได้อีกไกล แต่เกษตรกรคนไทยยังไม่ค่อยมีความเข้าใจ
ถ้าหากอยากปลูกผัก ทำการเกษตร ก็อยากให้ลองหามุมมอง ปรับวิธีคิด คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ผลิตและผู้บริโภค
คุณภาพที่ได้มาตรฐาน และที่สำคัญ จิตใจที่รักการเกษตร มีความใส่ใจ เชื่อว่าจะสามารถพัฒนาและยกระดับปลูกผักส่งขายได้”

 

ใครที่สนใจสามารถแวะไปเที่ยวชม “สมเกียรติ ผักอร่อย” ได้ที่ เลขที่ 45/1 หมู่ 7 ตำบลโคกสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี หรือ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟสบุค : สมเกียรติ ผักอร่อย ฟาร์มไม่ตั้งใจ สระบุรี

 

error: Alert: Content is protected !!