หากเราไม่ชอบ “คนนิสัย” แบบไหน อย่าทำนิสัยแบบนั้นกับ “คนอื่น” ชีวิตก็เป็นสุข

หลายคนมีเรื่องราวมากมายกว่าจะผ่านไปได้ในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเรื่องความรัก เรื่องเรียน เรื่องการงานและการเงินไปจนถึงเรื่องครอบครัว แต่เคยลองมองกลับมาที่ตัวเองดูบ้างไหมว่า เรื่องราวที่ผ่านมาและเกิดขึ้นตัวเราเป็นคนเริ่มต้นมันก่อน หรือเคยทำสิ่งนี้มาก่อนที่เค้าจะทำกับเราตอบหรือเปล่า

เราไม่ชอบคนไม่ดีแต่เรากลับเป็นคนไม่ดี เราอยากได้รักแท้แต่เรากลับไปแย่งเขามา เราอยากได้เงินทองแต่เราไม่รู้จักหา เราอยากเจอ คนดีแต่เรากลับไม่เคยมีความจริงใจ เราอยากมีความสุขแต่เรากลับอิจฉาคนอื่นจนเคยชิน หากมีสติจะรู้ว่าสุขจอมปลอม

ความลุ่มหลง ทำให้ชีวิตหลายๆคนพังมานักต่อนักแล้ว บางคนกว่าจะคิดได้ก็สาย จนแก้ไขอะไรไม่ทัน บางคนแก้ไขอดีตด้วยการทำปัจจุบันให้ดี แต่หลงลืมไปว่าคนอื่นยังจดจำการกระทำในอดีตได้ เคยกระทำไว้อย่างไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เพียงแต่ช้าหรือเร็วเท่านั้น

ที่เห็นยังสุขสมอยู่ เพราะ เ ว ร ก ร รม ยังมาไม่ถึง แต่สัจธรรมบนโลกคือ ไม่มีใครจะสุขสมได้ ตลอดอายุขัยเพราะทุกคนเกิดมาล้วนมี ก ร ร ม ติดตัว ทุกคนล้วนแต่มีทุกข์เป็น เพื่อนร่วมทางทั้งนั้น เขาทุกข์ได้ เราก็ทุกข์ได้ เช่นเดียวกัน

บางคนแค่ ก ร ร ม เก่ายังไม่พอ ยังไปสร้าง ก ร ร ม ใหม่เพิ่มอีก ยิ่งสร้าง ก ร ร มใหม่เพิ่มเท่าไหร่ ก็อย่าหวังเลยว่าชีวิตนี้ จะหาความสุขสงบจากการกระทำของตัวเองได้ ชีวิตเรามีสิ่งๆ หนึ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเรา นั่นคือ การกำหนดให้คนอื่นเป็นแบบที่เราอยากให้เป็น

เมื่อมันอยู่เหนือการควบคุม การถูก นินทา ใส่ ร้ า ย โดยคนอื่น จึงเป็นสิ่งที่เข้ามากระทบชีวิตเราอยู่เนื่องๆ ก ร ร ม ที่เราทำไว้กับคนอื่น จะกลายเป็นการกระทำที่คนอื่นทำต่อเรา การกระทำของคนอื่น ที่เรารู้ว่ามันควบคุมไม่ได้ เราเศร้า เสียใจ กับสิ่งที่ควบคุมและออกแบบไม่ได้

หากเรารู้ และมีสติยั้งคิดเรา เราจะรู้ว่าความคิดและการกระทำคนอื่น เราไปบังคับหรือฝืนเค้าไม่ได้ แต่สิ่งที่จะช่วยเราได้คือ การป้องกันใจเราให้แข็งแรง เมื่อจิตแข็ง ใครจะเข้ามาทำให้เราทุกข์ได้ ก็ยากขึ้น นั้นจึงเกิดการทำสมาธิ และเจริญภาวนา เพื่อกำหนดจิตให้อยู่กับตัว

กำหนดสติให้อยู่ทุกลมหายใจเข้าออก เมื่อเรามีสติแล้วอะไรที่มากระทบก็ไม่สำคัญ ใจจะนิ่ง จะเย็น และ เข้มแข็งขึ้น จิตใจจะนิ่งสงบเหมือนน้ำ อย่ามัวเฝ้าโทษตัวเองและจมปลักอยู่ในอดีต เพราะเมื่อวันวานจบลง ประตูสู่วันพรุ่งนี้ จะเปิดออกต้อนรับเราเสมอ เมื่อเข้าใจหลัก ศีล สมาธิ ภาวนา ไม่แน่ว่าประตูบานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมนั้น อาจเป็นการปล่อยวาง และ ให้อภัยผู้อื่นได้แบบไม่ทุกข์

ขอบคุณข้อมูล นามบุญ , เห็นทุกข์เห็นธรรม และ verrysmilejung เรียบเรียง 2BENEWS