ธนารักษ์ จับมือ ออมสิน-ธอส. ปล่อยสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อยซื้อบ้านคนไทยประชารัฐ
รายงานข่าวความร่วมมือระหว่างสามหน่วยงานรัฐจากห้องประชุมกรมธนารักษ์ ซึ่งได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงสินเชื่อโครงการบ้านคนไทยประชารัฐ ระหว่างกรมธนารักษ์ ธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยได้มีบ้านเป็นของตัวเองบนที่ราชพัสดุ นำร่อง 5 จังหวัด ราคาหลังละ 350,000 – 700,000 บาท ให้สิทธิผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีสิทธิ์จองก่อน
อธิบดีกรมธนารักษ์ เผยว่าจะมีโครงการนำร่องบนที่ดินของพื้นที่ราชพัสดุพร้อมทั้งจัดทำสัญญาเช่าเรียบร้อยแล้ว 5 จังหวัด โดยเริ่มเปิดจองโครงการแล้ว 4 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ และเชียงราย (อีกจังหวัดหนึ่งคือ ขอนแก่น) มีผู้จองสิทธิจำนวน 2,249 ราย คิดเป็น 98% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด 2,302 ยูนิต ซึ่งถือว่าได้รับความสนใจสูงมาก จากผู้มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับราคาบ้านจะอยู่ที่หลังละ 350,000 – 700,000 บาท
รูปแบบที่อยู่อาศัยโครงการแบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ บ้านแฝด บ้านแถว และอาคารชุดพักอาศัย พื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตร ราคาหน่วยละประมาณ 350,000-700,000 บาท ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างพิจารณาสินเชื่อโครงการฯ ให้ผู้ประกอบการจำนวน 3 ราย ใน 5 จังหวัดนำร่อง ซึ่งก่อสร้างในรูปแบบอาคารพักอาศัย (ห้องชุด) และบ้านแฝดชั้นเดียว รวมมูลค่าโครงการประมาณ 1,564 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างประมาณ 2,302 ยูนิต
ล่าสุดมีผู้สนใจ 4,953 ราย ได้จองสิทธิกับผู้ประกอบการรวม 2,210 ราย แบ่งเป็นกลุ่มสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 512 ราย กลุ่มผู้มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อคนต่อเดือน จำนวน 1,674 ราย และกลุ่มประชาชนทั่วไป จำนวน 5 ราย ซึ่งถ้าหากบ้านราคา 7 แสนบาท ก็จะมีค่าผ่อนเดือนละ 3,300 บาท ส่วนบ้านราคา 3.5 แสนบาท ก็จะมีค่าผ่อนเดือนละ 1,700 บาท
ทั้งนี้ ความร่วมมือของโครงการ บ้านคนไทยประชารัฐ บนที่ดินราชพัสดุ ถือเป็นการดำเนินงานตามกรอบการดำเนินโครงการที่คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 ซึ่งโครงการมีกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
- ประชาชนที่อยู่ในทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐกับกระทรวงการคลัง
- ประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อคนต่อเดือน
- ประชาชนทั่วไป (อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)
โดยให้สิทธิพิจารณาผู้เข้าร่วมโครงการจากประชาชนที่อยู่ในทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐกับกระทรวงการคลังเป็นลำดับแรก
เรียบเรียง 2benews